
สภาพอากาศวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2565 มีรายงานจากกรมอุตุวิทยา รายงานว่า พยากรณ์อากาศวันนี้ จะมีร่องของมรสุมผ่านประเทศมาเลเซีย จะมีบางช่วงของความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณช่องแคบมะละกาและมีในภาคใต้ตอนล่าง และมรสุมของตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะมีพัดปกคลุมที่อ่าวไทยตอนบน ส่วนในขณะที่ลมตะวันออกจะพัดปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง เหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ และอาจจะมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ จึงอยากขอให้ทุกคนในบริเวณดังที่กล่าวมาช่วยกันระวังอันตรายจากพายุฝน เพราะอาจจะทำให้มีเหตุการณ์น้ำท่วมเฉียบพลันของเชิงเขาใกล้ทางน้ำผ่านได้
ในบริเวณที่มีความกดอากาศที่สูงปกคลุมพื้นที่ประเทศไทยในขณะนี้นั้น กำลังอ่อนและจะมีการเคลื่อนที่ไปปกคลุมในส่วนของทะเลจีนใต้ ทางลมตะวันออกเฉียงใต้ในระดับบนนั้น จะพัดนำความชื้นจากในทะเลเข้าไปปกคลุมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคกลาง อีกทั้งรวมในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร และในภาคตะวันออกนั้นจะทำให้บริเวณต่างๆนั้นมีฝนตกหนัก แต่จะเกิดขึ้นเฉพาะบางพื้นที่ ส่วนของภาคเหนือกับภาคตะวันออเฉียงเหนือตอนบนจะมีอากาศที่เย็นในตอนเช้าๆ จึงขอให้ทุกคนนั้นระวังการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและรักษาสุขภาพด้วย

พยากรณ์อากาศวันนี้ ของประเทศในช่วงเวลา 06.00 ของวันนี้ไปจนถึง 06.00 ของวันพรุ่งนี้ได้แก่
1.ภาคเหนือ
จะมีอากาศเย็นๆในของตอนเช้าๆ จะมีฝนฟ้า ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดที่ 18-20 องศาเซลเซียล และสูงสุดอยู่ที่ 31-35 องศาเซลเซียล ส่วนบนยอดดอยจะมีอากาศหนาวตำ่สุดถึง 6-12 องศาเซลเซียล ด้านลมตะวันออกเฉียงเหนือนั้นอยู่ที่ความเร็ว 10-15 กม.ต่อ ชม. ได้แก่
- พิจิตร
- พิษณุโลก
- เพชรบูรณ์
2.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ตอนบนของภาคนั้น จะมีอากาศหนาวเย็นกับจะมีหมอกในตอนเช้าๆ ตอนล่างของภาคนั้น จะมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่เลย อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 20-24 องศาเซลเซียส สูงสุดจะอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียล บริเวณที่ยอดเขาจะมีอากาศหนาวต่ำสุดที่ 10-16 องศาเซลเซียล ส่วนลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็วจะอยู่ที่ 10-20 กม.ต่อ ชม. ได้แก่
- ชัยภูมิ
- นครราชสีมา
- ศรีสะเกษ
- สุรินทร์
- บุรีรัมย์

3.ภาคกลาง
จะมีฝนร้อยละ 30 ของพื้นที่เลย อุณหภูมินั้นต่ำสุดอยู่ที่ 24-25 องศาเซลเซียล และสูงสุดอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียล และลมความเร็วตะวันออกเฉียงเหนือจะอยู่ที่ 10-20 กม.ต่อ ชม. ได้แก่
- สิงห์บุรี
- อ่างทอง
- สุพรรณบุรี
- พระนครศรีอยุธยา
- ราชบุรี
- นครปฐม
- สมุทรสาคร
- สมุทรสงคราม
4.ภาคตะวันออก
จะมีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่ โดยส่วนใหญ่จะอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียล และสูงสุดอยู่ที่ 32-35 องศาเซลเซียส ส่วนความเร็วของลมนั้นอยู่ที่ 10-30 กม.ต่อชม. ได้แก่
- ฉะเชิงเทรา
- ชลบุรี
- ระยอง
- จันทบุรี
- ตราด
5.กรุงเทพและปริมณฑล
จะมีฝนฟ้าร้อยละ 40 ของพื้นที่ และอุณหภูมินั้นจะต่ำสุดอยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียล และสูงสุดจะอยู่ที่ 33-34 องศาเซลเซียส ส่วนความเร็วของลมนั้นในตะวันออกเฉียงเหนือ จะอยู่ที่ 10-20 กม.ต่อ ชม.
เครดิต : www.bangkokbiznews.com, www.thaipost.net